Privacy Policy (นโยบายความเป็นส่วนตัว)

Last updated: 03-04-2025

บริษัท irasubhost ไอร่าซัพโฮต์ จำกัด (“บริษัท” หรือ “ของบริษัท”) ถือว่าการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของผู้ขอใช้บริการเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง 

  1. บริษัทจึงแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของบริษัท (“นโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัว” ฉบับนี้) เพื่อเป็นการให้ความกระจ่างเรื่องการดำเนินการของบริษัทในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล โดยที่ยังคงให้บริการแก่ผู้ขอใช้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดิม ซึ่งมีดังต่อไปนี้

  2. บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ตลอดเวลาที่ผู้ขอใช้บริการยังใช้งานอยู่ เป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อบรรลุตามวัตถุประสงค์การขอรับบริการตามรายละเอียดในนโยบายคุ้มครองส่วนตัวนี้ หรือปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่ใช้บังคับ
    บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้แม้ภายหลังจากที่ผู้ขอใช้บริการยุติการใช้บริการแล้ว หากมีความจำเป็นตามสมควรที่จะต้องเก็บไว้ดังนี้
    • เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่ใช้บังคับหรือหน้าที่ตามกฎหมาย
    • เพื่อให้บริการช่วยเหลือผู้ใช้บริการได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์
    • เพื่อระงับข้อพิพาทระหว่างหรือที่มีกับผู้ใช้บริการตลอดระยะเวลาที่ใช้บังคับได้ หรือ
    • เพื่อตรวจจับและป้องกันมิให้มีการใช้บริการโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือใช้ในลักษณะฉ้อฉล หรือมิชอบ

  3. ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2562 บริษัทจะเริ่มต้นในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะของผู้ขอใช้บริการที่ให้ความยินยอมในเรื่อง “เกี่ยวกับการใช้ข้อมูลของท่าน” เท่านั้น เค้าโครงรายละเอียดในเรื่องข้อมูลตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวนั้นมีดังต่อไปนี้
    ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ
    บริษัทจะจำกัดการใช้ข้อมูลตามที่กำหนดไว้ข้างต้นเฉพาะผู้ขอใช้บริการที่ได้ให้ความยินยอมต่อการใช้ข้อมูลดังกล่าวเท่านั้น

  4. นอกจากนี้เพื่อเป็นการให้ความกระจ่างในเรื่องประเภทของข้อมูลซึ่งบริษัทได้รับและวิธีการที่บริษัทใช้ข้อมูลนั้น บริษัทได้จัดระเบียบในเรื่องข้อมูลที่บริษัทได้รับมารวมทั้งเรื่องวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลดังกล่าว
    บริษัทอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ขอใช้บริการบางส่วนแก่บุคคลภายนอก ข้อมูลที่จะจัดให้จะจำกัดเฉพาะข้อมูลที่น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็นเท่านั้น การจัดให้ซึ่งข้อมูลนอกเหนือไปจากที่ระบุข้างต้นยังคงจะต้องเป็นไปตามคำยืนยันตามเจตนาของท่านซึ่งเหมือนเช่นการปฏิบัติก่อนหน้านี้

1. บทนำ

  1. บริษัท irasubhost ไอร่าซัพโฮต์ จำกัด (“บริษัท” หรือ “ของบริษัท”) เชื่อว่า ความเป็นส่วนตัวของบริษัท irasubhost ไอร่าซัพโฮต์ จำกัด (“บริษัท” หรือ “ของบริษัท”) เป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการบรรลุตามข้อผูกพันของบริษัทในการเคารพและคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของบริษัท irasubhost ไอร่าซัพโฮต์ จำกัด (“บริษัท” หรือ “ของบริษัท”) บริษัทจะปฏิบัติตามหลักการพื้นฐานเหล่านี้

  2. 1. บริษัทจะเรียนให้ผู้ขอใช้บริการทราบเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่จะทำการเก็บรวบรวม และขอความยินยอมจากผู้ขอใช้บริการตามที่เห็นสมควร เพื่อเก็บรวบรวม ประมวลผลการใช้งาน หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ขอใช้บริการ
    2. บริษัทจะระบุวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ขอใช้บริการ
    3. บริษัทเก็บรวบรวมเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติตามวัตถุประสงค์การใช้งานที่ระบุเท่านั้น
    4. บริษัทจะใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ขอใช้บริการตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมเท่านั้น ยกเว้นได้รับความยินยอมจากผู้ขอใช้บริการหรือตามที่กฎหมายใช้บังคับกำหนดหรืออนุญาต และบริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลของผู้ขอใช้บริการไว้เท่าที่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์เหล่านั้นเท่านั้น
    5. บริษัทจะพยายามดำเนินการให้แน่ใจว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ขอใช้บริการ ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นปัจจุบัน
    6. บริษัทจะจัดให้มีเทคนิคและมาตรฐานองค์กรที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ขอใช้บริการอย่างเหมาะสม
    7. บริษัทจะจัดทำนโยบายและแนวปฏิบัติต่างๆ ของบริษัท เพื่อให้การจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ขอใช้บริการมีความโปร่งใสตามสมควรเท่าที่จะเป็นไปได้
    8. ผู้ขอใช้บริการจะมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ขอใช้บริการ และสามารถแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ขอใช้บริการให้ถูกต้องตามความเหมาะสม และสิทธิของผู้ขอใช้บริการที่ได้รับตามกฎหมายที่ใช้บังคับ
    9. บริษัทจะรับผิดชอบต่อผู้ขอใช้บริการ โดยบริษัทยินดีรับฟังความคิดเห็นของผู้ขอใช้บริการเกี่ยวกับการปฏิบัติตามหลักการเหล่านี้ นโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวนี้ และกฎหมายที่ใช้บังคับ

2. ขอบเขตนโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัว

  1. ก. เป้าหมายของนโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัว
    นโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวนี้อธิบายวิธีการที่บริษัทใช้ในการจัดการและปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ขอใช้บริการ และสิทธิและทางเลือกต่างๆ ที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ขอใช้บริการ นโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวนี้ใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมหรือรับจากผู้ขอใช้บริการ เมื่อผู้ขอใช้บริการใช้บริการระบบการจัดการร้านค้าที่เชื่อมต่อการขนส่ง

3. ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม

  1. ก. ข้อมูลส่วนบุคคลใดที่บริษัทเก็บรวบรวม
    ก-1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทอาจเก็บรวบรวม นั้นจะรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง:
    • ชื่อ
    • ที่อยู่อีเมล
    • วันเกิด
    • ที่อยู่ตามบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต
    • ที่อยู่สำหรับเรียกเก็บเงิน
    • ที่อยู่สำหรับการจัดส่ง
    • รายละเอียดบัญชีธนาคารและข้อมูลการชำระเงิน
    • หมายเลขติดต่อ
    • หมายเลขบัตรประชาชนหรือหมายเลขพาสปอร์ต
    • เพศ
    • ที่อยู่อินเทอร์เน็ตโปรโตคอล (IP)
    • ข้อมูลอื่นใดเกี่ยวกับผู้ขอใช้บริการ เมื่อผู้ขอใช้บริการลงทะเบียนเข้าใช้บริการหรือไซต์ของเรา และเมื่อผู้ขอใช้บริการหรือไซต์ รวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวกับวิธีการใช้บริการหรือไซต์ของผู้ใช้บริการ
    • ประชาชนทั่วไปและกลุ่มที่คุณเชื่อมต่อหรืออาจเชื่อมต่อกันบนแพลตฟอร์มของบริษัท และลักษณะที่ผู้ขอใช้บริการติดต่อสื่อสารกับบุคคลเหล่านั้น
    • ข้อมูลจากหรือเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่คุณติดตั้งแอปพลิเคชันของบริษัท และ/หรือใช้อุปกรณ์เพื่อเข้าถึงบริการของผู้ขอใช้บริการ และ/หรือไซต์
    • รายละเอียดบัญชีของผู้ขอใช้บริการกับเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบุคคลภายนอก ที่ผู้ขอใช้บริการได้เชื่อมต่อบัญชีผู้ใช้ของผู้ขอใช้บริการกับบริษัทผ่านทางไซต์
    • ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นใดที่ผู้ขอใช้บริการอาจให้แก่บริษัทผ่านทางไซต์เกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้ของผู้ขอใช้บริการ

  2. เมื่อผู้ขอใช้บริการสร้างบัญชี (“บัญชีผู้ใช้”) บริษัทจะขอให้ผู้ขอใช้บริการระบุชื่อ หมายเลขโทรศัพท์และอีเมลแอดเดรสของผู้ขอใช้บริการ ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่จำเป็น เนื่องจากบริษัทอาจติดต่อมิให้มีการใช้บริการโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือใช้ในลักษณะฉ้อฉลหรือในทางมิชอบ นอกจากนี้บริษัทอาจใช้หมายเลขโทรศัพท์และอีเมลแอดเดรสที่ผู้ขอใช้บริการลงทะเบียนนี้ เพื่อส่งข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับบริการให้แก่ผู้ขอใช้บริการอีกด้วย

  3. ทั้งนี้ ผู้ขอใช้บริการอาจเลือกสร้างบัญชีโดยใช้บัญชี Facebook ของผู้ขอใช้บริการก็ได้ ขอเรียนให้ทราบว่า บริษัทมิได้เก็บรหัส Facebook ของผู้ขอใช้บริการ ผู้ขอใช้บริการจำเป็นต้องให้ข้อมูลข้างต้นเพื่อสร้างบัญชีและใช้บริการ

ก-2. ข้อมูลอุปกรณ์และบันทึกการเข้าถึงเมื่อผู้ขอใช้บริการใช้บริการของบริษัท

  1. เมื่อผู้ขอใช้บริการใช้บริการของบริษัท บริษัทอาจขอรับและเก็บรักษาข้อมูลแสดงตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์หรือบันทึกข้อมูลที่ได้มาโดยอัตโนมัติจากอุปกรณ์ของผู้ขอใช้บริการบางรายการ เช่น ประเภทอุปกรณ์ ระบบปฏิบัติการ เลขที่อยู่ IP ข้อมูลเบราว์เซอร์ รวมถึงประเภทและการตั้งค่าภาษา ตัวระบุเครื่อง ข้อมูลคุกกี้ ตัวระบุโฆษณา

  2. ในบางกรณีท่านอาจประสงค์ที่จะติดต่อกับบริษัทเพื่อขอรับบริการช่วยเหลือลูกค้าจากบริษัท หากท่านติดต่อบริษัทผ่านแบบฟอร์มติดต่อของบริษัท หรือโดยวิธีการอื่น บริษัทอาจขอรับและเก็บรักษาข้อมูลใดๆ ที่ท่านเลือกระบุไว้ ซึ่งรวมถึงชื่อของผู้ขอใช้บริการ และข้อมูลการติดต่อต่างๆ เช่น ที่อยู่อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ตลอดจนข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์เคลื่อนที่ของท่านหรือคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล เช่น ประเภทอุปกรณ์ และระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์ดังกล่าว บริษัทจะใช้ข้อมูลนี้ในการแก้ไขและตรวจสอบปัญหาที่ท่านส่งมายังบริษัท เพื่อให้การช่วยเหลือแก่ผู้ขอใช้บริการและปรับปรุงบริการช่วยเหลือลูกค้าของบริษัทต่อไป บริษัทอาจประมวลผลข้อมูลนี้ที่เกี่ยวกับความช่วยเหลือที่ผู้ขอใช้บริการร้องขอมาจัดการกับบัญชีผู้ใช้ของผู้ขอใช้บริการ และเก็บข้อมูลนี้ไว้ตามบทบัญญัตินโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวนี้

ก-3. ข้อมูลการชำระเงิน

  1. หากผู้ขอใช้บริการเลือกซื้อหรือใช้บริการเพิ่มเติมที่คิดค่าบริการ และชำระค่าบริการเพิ่มเติมดังกล่าวโดยวิธีการอื่น บริษัทอาจให้ผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเก็บและประมวลผลข้อมูลบัตรเครดิตของผู้ขอใช้บริการ โดยบริษัทจะใช้ข้อมูลบัตรเครดิตของผู้ขอใช้บริการเพื่อประมวลผลการซื้อหรือใช้บริการที่มีค่าบริการเท่านั้น โปรดทราบว่า บริษัทจะไม่เก็บข้อมูลบัตรเครดิตของผู้ขอใช้บริการไว้เกินจากระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการอำนวยความสะดวกในการชำระเงินที่เกี่ยวข้อง โดยการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตของผู้ขอใช้บริการท่านจะได้รับการดำเนินการโดยหน่วยงานชำระเงินภายนอกที่เหมาะสม

  2. จากข้อมูลประเภทต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น บริษัทจะไม่ดู ใช้รายละเอียด หรือนำไปดำเนินการอื่นใดกับเนื้อหาส่วนตัวที่ท่านแลกเปลี่ยนกับผู้ใช้รายอื่นๆ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ขอใช้บริการ

ข. เก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลภายนอกหรือไม่

  1. ข-1. ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการที่จัดการดำเนินการโดยบุคคลภายนอก
    เพื่อเป็นการจัดการบริการที่ให้ประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ขอใช้บริการ บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลภายนอกจากการที่ได้รับข้อมูลดังกล่าว อาจมีกรณีที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลมาจากคู่ค้าที่ให้บริการเฉพาะบางประการ รวมถึงกรณีที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลมาจากคู่ค้าที่ให้บริการต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับบัญชีทางการ จากบริการอื่นๆ หากผู้ขอใช้บริการใช้บริการใดๆ ที่เชื่อมโยงกับบุคคลภายนอก บริษัทอาจออกรหัสภายในโดยอัตโนมัติเพื่อใช้เชื่อมต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบริการดังกล่าว และแชร์สิ่งเดียวกันนี้กับบุคคลภายนอกนั้น

ค. บริษัทใช้และจัดการข้อมูลของผู้ขอใช้บริการอย่างไร
ค-1. บริษัทนำข้อมูลของผู้ขอใช้บริการไปใช้อย่างไร

  1. ในการให้บริการและบริการเพิ่มเติมอื่นใดๆ นั้น บริษัทซึ่งเป็นผู้ควบคุมข้อมูลหรือผู้ร่วมควบคุมข้อมูลจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ขอใช้บริการเพื่อวัตถุประสงค์ตามนโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัว ดังนี้

  2. (ก) เพื่อพิจารณาและ/หรือดำเนินการการยื่นเรื่อง/ธุรกรรมของผู้ขอใช้บริการกับบริษัท หรือธุรกรรมหรือการติดต่อสื่อสารของผู้ขอใช้บริการกับบุคคลภายนอกผ่านบริการ
    (ข) เพื่อจัดการ ดำเนินการ ให้ และ/หรือบริหารการใช้งานของผู้ขอใช้บริการ และ/หรือเพื่อเข้าถึงบริการและเว็บไซต์ของบริษัท รวมถึงความสัมพันธ์และบัญชีผู้ใช้ของผู้ขอใช้บริการกับบริษัท
    (ค) เพื่อจัดการ ดำเนินการ บริหาร และจัดหาบริการแก่ผู้ขอใช้บริการ รวมถึงช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดเตรียมบริการของบริษัท รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การจดจำความต้องการของผู้ขอใช้บริการ
    (ง) ปรับแต่งประสบการณ์ของผู้ขอใช้บริการผ่านบริการ โดยแสดงเนื้อหาตามความสนใจและความต้องการของผู้ขอใช้บริการ พร้อมให้วิธีที่รวดเร็วในการเข้าถึงบัญชีของผู้ขอใช้บริการ และส่งข้อมูลมายังบริษัท ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถติดต่อกับผู้ขอใช้บริการได้หากจำเป็น
    (จ) เมื่อผู้ขอใช้บริการใช้แอปพลิเคชัน เว็บไซต์หรือบริการอื่นของบุคคลภายนอก ที่ใช้หรือรวมกับบริการของบริษัท บุคคลภายนอกนั้นอาจรับข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้ขอใช้บริการโพสต์หรือแบ่งปัน
    (ฉ) เพื่อตอบรับ ดำเนินการ จัดการ หรือทำธุรกรรมให้เสร็จสมบูรณ์ และ/หรือทำตามการร้องขอเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของผู้ขอใช้บริการ และแจ้งให้ผู้ขอใช้บริการทราบเกี่ยวกับปัญหาด้านการบริการและการดำเนินการเกี่ยวกับบัญชีที่มีความผิดปกติ
    (ช) เพื่อบังคับใช้เงื่อนไขการให้บริการ หรือข้อตกลงสิทธิ์การใช้งานสำหรับผู้ใช้ที่เกี่ยวข้อง
    (ซ) เพื่อป้องกันความปลอดภัยและสิทธิ์ ทรัพย์สินส่วนบุคคล หรือความปลอดภัยของบุคคลอื่น
    (ฌ) เพื่อระบุตัวตนและ/หรือการตรวจสอบความถูกต้อง
    (ญ) เพื่อรักษาและควบคุมการอัปเดตซอฟต์แวร์และ/หรือการอัปเดตอื่นๆ และให้การสนับสนุนที่จำเป็นในบางคราว เพื่อให้แน่ใจว่าบริการของเราจะเป็นไปอย่างราบรื่น
    (ฎ) เพื่อจัดการหรืออำนวยความสะดวกในการให้บริการลูกค้า ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้ขอใช้บริการ จัดการหรือตอบข้อซักถามที่ได้รับ (หรืออ้างว่าได้รับ) จากผู้ขอใช้บริการหรือในนามของผู้ขอใช้บริการ
    (ฏ) เพื่อติดต่อหรือสื่อสารกับผู้ขอใช้บริการผ่านการโทรด้วยเสียง ข้อความ และ/หรือข้อความแฟกซ์ อีเมล และ/หรือการส่งไปรษณีย์ หรือในรูปแบบอื่นใด เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารและ/หรือจัดการความสัมพันธ์ระหว่างผู้ขอใช้บริการกับบริษัท หรือการใช้บริการของบริษัท เช่นว่าแต่ไม่จำกัดเพียง การสื่อสารข้อมูลด้านการจัดการที่เกี่ยวเนื่องกับบริการของบริษัทกับผู้ขอใช้บริการ ผู้ขอใช้บริการรับทราบและยอมรับว่าการสื่อสารดังกล่าวของบริษัทนั้น อาจเป็นด้วยวิธีการส่งจดหมายโต้ตอบ เอกสารหรือการแจ้งประกาศแก่ผู้ขอใช้บริการ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ขอใช้บริการบางประการบนหน้าซอง/หีบห่อจดหมายด้านนอก เพื่อการจัดส่งสิ่งดังกล่าว
    (ฐ) เพื่อแจ้งให้ผู้ขอใช้บริการทราบ เมื่อผู้ใช้คนอื่นส่งข้อความส่วนตัว หรือโพสต์ความคิดเห็นให้ผู้ขอใช้บริการบนไซต์
    (ฑ) เพื่อดำเนินการศึกษาวิจัย วิเคราะห์ และพัฒนากิจกรรมต่างๆ (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การวิเคราะห์ข้อมูล การสำรวจ การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ และ/หรือ การทำแฟ้มประวัติ) เพื่อ วิเคราะห์การใช้บริการเพื่อนำไปปรับปรุงบริการหรือผลิตภัณฑ์ของบริษัท และ/หรือ ช่วยเสริมประสบการณ์ของลูกค้า
    (ฒ) เพื่อให้สามารถตรวจสอบ และทำการสำรวจ และอื่นๆ เพื่อตรวจสอบขนาดและองค์ประกอบของกลุ่มเป้าหมายของบริษัท และทำความเข้าใจเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ผู้ขอใช้บริการได้รับจากบริการของ yadeep
    (ณ) ในกรณีที่ผู้ขอใช้บริการให้ความยินยอมให้บริษัทส่งข้อมูลการตลาดและการส่งเสริมการขาย และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบุคคลที่สามซึ่ง yadeep อาจทำงานร่วมกันหรือมีข้อผูกพันต่อกัน) เพื่อการตลาดและในเรื่องดังกล่าวนี้ โดยผ่านรูปแบบการติดต่อสื่อสารต่างๆ ได้แก่ การส่งไปรษณีย์ การบริการตามตำแหน่งที่ตั้งหรือรูปแบบอื่นใด ซึ่ง yadeep (และ/หรือบริษัทในเครือหรือบริษัทที่เกี่ยวข้อง) อาจจำหน่าย ทำการตลาด หรือส่งเสริมการขาย ไม่ว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการดังกล่าวจะมีอยู่ในขณะนี้หรือจะเกิดขึ้นในอนาคตหรือไม่ก็ตาม
    (ด) เพื่อตอบสนองต่อกระบวนการทางกฎหมาย หรือปฏิบัติตามหรือเป็นไปตามกฎหมายที่บังคับใช้ ข้อกำหนดของภาครัฐ หรือตามกฎข้อบังคับภายใต้อำนาจการพิจารณาที่เกี่ยวข้อง รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การดูแลให้เป็นไปตามข้อกำหนด เพื่อทำให้การเปิดเผยข้อมูลนั้นเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายที่ yadeep ต้องปฏิบัติตาม
    (ต) เพื่อจัดทำข้อมูลสถิติและงานวิจัย เพื่อการรายงานภายในองค์กร และตามกฎหมาย และ/หรือตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการจัดเก็บบันทึก
    (ถ) เพื่อปฏิบัติตามขั้นตอนการตรวจสอบประวัติความเป็นมาทางธุรกิจ หรือกิจกรรมการคัดกรองอื่นใด (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การตรวจสอบประวัติความเป็นมา) ซึ่งเป็นไปตามข้อผูกพันทางกฎหมายหรือตามกฎข้อบังคับ หรือกระบวนการจัดการความเสี่ยงของเราซึ่งกฎหมายได้กำหนดไว้ หรือที่บริษัทได้เป็นผู้นำมาใช้
    (ท) เพื่อตรวจสอบบริการของบริษัท หรือธุรกิจของ yadeep
    (ธ) เพื่อป้องกันและตรวจสอบการฉ้อโกง กิจกรรมที่ผิดกฎหมาย การละเว้นหรือการประพฤติผิด ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับการใช้บริการของบริษัท หรือกิจกรรมอื่นใดอันเกิดจากความสัมพันธ์ของผู้ขอใช้บริการกับบริษัท และไม่ว่าจะมีความสงสัยในสิ่งที่ได้กล่าวถึงข้างต้นหรือไม่ก็ตาม
    (น) เพื่อจัดเก็บ โฮสต์ สำรองข้อมูล (ไม่ว่าจะเพื่อการกู้คืนจากความเสียหายหรือเหตุอื่นใด) ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ขอใช้บริการ ไม่ว่าจะอยู่ในหรือนอกอำนาจการพิจารณา
    (บ) เพื่อจัดการและ/หรือช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ธุรกรรมเกี่ยวกับทรัพย์สินของธุรกิจ หรือธุรกรรมเกี่ยวกับทรัพย์สินของธุรกิจที่มีศักยภาพ ซึ่งธุรกรรมดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ yadeep ในฐานะผู้มีส่วนร่วมหรือเกี่ยวข้องกับบริษัทที่เกี่ยวข้องหรือบริษัทในเครือของ yadeep ในฐานะผู้มีส่วนร่วมเท่านั้น หรือเกี่ยวข้องกับ yadeep และ/หรือบริษัทหรือบริษัทในเครือที่เกี่ยวข้องของ yadeep อย่างน้อยหนึ่งแห่งในฐานะผู้มีส่วนร่วม และอาจมีองค์กรภายนอกที่เป็นผู้มีส่วนร่วมในธุรกรรมดังกล่าว
    “ธุรกรรมเกี่ยวกับทรัพย์สินของธุรกิจ” หมายถึง การซื้อ ขาย ให้เช่า ควบรวม การควบ หรือการซื้อกิจการอื่นใด การจำหน่ายจ่ายโอนหรือการให้เงินทุนแก่องค์กรหรือส่วนหนึ่งส่วนใดขององค์กร หรือธุรกิจหรือทรัพย์สินอื่นใดขององค์กร
    (ป) วัตถุประสงค์อื่นใดที่เราได้แจ้งแก่ผู้ขอใช้บริการ ณ เวลาที่ได้รับความยินยอมจากผู้ขอใช้บริการ
    (รวมเรียกว่า “วัตถุประสงค์”)

ค-2. บริษัทจะปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ขอใช้บริการอย่างไร

  1. ในการดำเนินการตามพันธะหน้าที่ที่จะเคารพและคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของผู้ขอใช้บริการ และการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ขอใช้บริการเป็นความลับ บริษัทได้ใช้มาตรฐานความปลอดภัยทางเทคนิคและทางองค์กรที่เหมาะสม รวมถึงมาตรการป้องกันตามมาตรฐานของอุตสาหกรรมด้านนี้ เพื่อป้องกันการเข้าถึงหรือเปิดเผยโดยมิได้รับอนุญาต การใช้งานในทางมิชอบ การเปลี่ยนแปลงแก้ไข หรือการทำลายข้อมูลของผู้ขอใช้บริการ เนื่องจากไม่มีวิธีการส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ใดหรือวิธีการจัดเก็บข้อมูลใดที่สมบูรณ์แบบหรือไม่สามารถเจาะผ่านได้ บริษัทจึงไม่อาจรับประกันได้ว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ขอใช้บริการจะปลอดภัยแบบเบ็ดเสร็จจากการบุกรุกในระหว่างการส่งข้อมูลหรือจัดเก็บเข้าระบบของบริษัท เพื่อช่วยคุ้มครองสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ขอใช้บริการและเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ขอใช้บริการ

ค-3. บริษัทจะเก็บข้อมูลของผู้ขอใช้บริการไว้นานเท่าใด

  1. บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ตลอดเวลาที่ผู้ขอใช้บริการยังใช้งานอยู่ เป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อบรรลุตามวัตถุประสงค์การใช้งานตามรายละเอียดในนโยบายคุ้มครองส่วนตัวนี้ หรือปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่ใช้บังคับ

  2. บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ขอใช้บริการไว้แม้ภายหลังจากที่ยุติแล้ว หากมีความจำเป็นตามสมควรที่จะต้องเก็บไว้ดังนี้
    • เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่ใช้บังคับหรือหน้าที่ตามกฎหมาย
    • เพื่อให้บริการช่วยเหลือผู้ขอใช้บริการได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์
    • เพื่อระงับข้อพิพาทระหว่างหรือที่มีกับผู้ขอใช้บริการตลอดระยะเวลาที่ใช้บังคับได้ หรือ
    • เพื่อตรวจจับและป้องกันมิให้มีการใช้บริการโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือใช้ในลักษณะฉ้อฉล หรือมิชอบ

ง. บริษัทใช้ผู้ให้บริการหรือตัวแทนให้บริการภายนอกหรือไม่

  1. เพื่อให้บริการ ในบางครั้งบริษัทจำเป็นต้องให้ผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอกประมวลผลข้อมูลของผู้ใช้ ที่อาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ขอใช้บริการ บริษัทคัดเลือกผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอกดังกล่าวอย่างเคร่งครัด และบริษัทดำเนินการตามสมควรเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้วางระบบการจัดการข้อมูลและการควบคุมภายในองค์กรที่เหมาะสมและปลอดภัย และบริษัทได้กำหนดหน้าที่ตามสัญญาแก่ผู้ให้บริการดังกล่าว เพื่อให้ผู้ให้บริการดังกล่าวต้องปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่ใช้บังคับเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลด้วย นอกจากนี้บริษัทยังกำหนดให้ผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอกดังกล่าวเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เฉพาะเพียงภายในขอบเขตที่จำเป็นตามคำสั่งและวัตถุประสงค์ของบริษัทเท่านั้น


จ. บริษัทให้ข้อมูลของผู้ขอใช้บริการแก่บุคคลภายนอกหรือไม่

  1. นอกเหนือจากรายละเอียดข้างต้นในนโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวนี้ และนโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวหรือบันทึกต่อท้ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง บริษัทจะไม่ให้ข้อมูลของผู้ขอใช้บริการแก่บุคคลอื่นโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ขอใช้บริการ เว้นแต่ว่าเป็นกรณีที่บริษัทเชื่อโดยสุจริตว่าบริษัทจำเป็นหรือได้รับอนุญาตให้ดำเนินการดังกล่าวตามกฎหมายที่ใช้บังคับ ยกเว้นกรณีต่อไปนี้

  2. กรณีที่ผู้ขอใช้บริการใช้บริการที่เชื่อมโยงกับบุคคลภายนอก หรือกรณีอื่นๆ ที่มีการให้ข้อมูลซึ่งน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็นแก่คู่ค้าเพื่อระบุตัวตนผู้ใช้ ในกรณีดังกล่าวนั้น บริษัทจะให้เฉพาะข้อมูลน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็นเท่านั้นแก่บุคคลภายนอก (รหัสภายใน ข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับอุปกรณ์ (เช่น เลขรหัสประจำตัวของโฆษณา การตั้งค่าภาษา ข้อมูลเกี่ยวกับที่มา เป็นต้น) และในการให้ข้อมูลชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ฯลฯ เหล่านี้ บริษัทจะดำเนินการให้มั่นใจว่าได้ยืนยันเจตนาของผู้ขอใช้บริการอีกครั้งหนึ่งแล้ว

ฉ. บริษัทใช้คุ๊กกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึงกันหรือไม่
บริษัทใช้คุกกี้หรือเทคโนโลยีการจัดเก็บเฉพาะอื่นที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

  1. คุกกี้ คือ แฟ้มข้อมูลย่อยที่ถูกเก็บรักษาไว้อยู่บนคอมพิวเตอร์ของผู้ขอใช้บริการเมื่อผู้ขอใช้บริการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ แฟ้มข้อมูลนี้จะเก็บข้อมูลที่เว็บไซต์สามารถใช้อ่านได้อีก เมื่อผู้ขอใช้บริการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์นั้น ในครั้งหน้า ข้อมูลคุกกี้บางข้อมูลมีความจำเป็น เพราะมิเช่นนั้นแล้วเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างเหมาะสม ส่วนข้อมูลคุกกี้อื่นๆ นั้นช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เยี่ยมชมโดยการจดจำชื่อผู้ใช้ (username) ในทางที่ปลอดภัยและตามภาษาที่ผู้ขอใช้บริการเลือก คุกกี้มีไว้เพื่อให้ผู้ขอใช้บริการมิต้องเติมข้อมูลเดิมๆ ในแต่ละครั้งที่ผู้ขอใช้บริการเยี่ยมชมเว็บไซต์

  2. บริษัทใช้คุกกี้เพื่อ:
    • ช่วยบริษัทในการรักษาข้อมูลเซสชัน (Session) ของผู้ขอใช้บริการเมื่อผู้ขอใช้บริการใช้บริการและ/หรือบริการเพิ่มเติมใดๆ
    • เพิ่มประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัยของระบบของบริษัท
    • เก็บค่าพึงใจ (Preference) และให้บริการที่กำหนดค่าตามความต้องการของผู้ขอใช้บริการ และ
    • ช่วยบริษัทในการทำความเข้าใจว่า ประชาชนใช้บริการอย่างไร และเพื่อการปรับปรุงบริการ

  3. บริษัทใช้คุกกี้ของบุคคลภายนอกดังต่อไปนี้ด้วยบนเว็บไซต์
    • ตัวเก็บข้อมูลกูเกิล (Google Analytics)

  4. การที่ผู้ขอใช้บริการใช้บริการต่อไป เป็นการบ่งชี้ว่า ผู้ขอใช้บริการยอมรับให้บริษัทใช้คุกกี้และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันตามนโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัว

  5. บราวเซอร์ของอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่อนุญาตให้ผู้ขอใช้บริการควบคุมได้ว่าจะยอมรับการใช้คุกกี้หรือไม่ หากผู้ขอใช้บริการปิดการใช้คุกกี้ หรือจำกัดความสามารถในการตั้งค่าคุกกี้ ผู้ขอใช้บริการอาจไม่สามารถรับสิทธิประโยชน์จากเว็บไซต์หรือเข้าถึงทุกฟังก์ชันได้ ซึ่งอาจจำกัดการใช้งานโดยรวมของผู้ขอใช้บริการ

4. ทางเลือกของผู้ขอใช้บริการ

  1. สิทธิของผู้ขอใช้บริการ มีความเป็นไปได้ที่บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับบุคคลที่ไม่ใช่ผู้ใช้บริการในปัจจุบัน โปรดทราบว่า ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้บริการหรือไม่ ผู้ขอใช้บริการสามารถเลือกและมีสิทธิต่างๆ ตามหัวข้อนี้ หากบริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ขอใช้บริการ

ก. ผู้ขอใช้บริการจะควบคุมข้อมูลของผู้ขอใช้บริการได้อย่างไร

  1. ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายที่ใช้บังคับ (รวมถึงข้อยกเว้นหรือบทยกเว้นภายใต้กฎหมายดังกล่าว) ผู้ขอใช้บริการอาจมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ขอใช้บริการ สิทธิในการแก้ไขข้อผิดพลาดในข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ขอใช้บริการโดยอาศัยเหตุที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อใช้สิทธิใดๆ ของผู้ขอใช้บริการภายใต้กฎหมายที่ใช้บังคับ ผู้ขอใช้บริการอาจติดต่อบริษัทผ่านทางแบบฟอร์มติดต่อ เมื่อตรวจสอบตัวตนของผู้ขอใช้บริการแล้ว บริษัทจะตอบกลับคำขอของผู้ขอใช้บริการภายในระยะเวลาตามสมควร และตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากผู้ขอใช้บริการต้องการส่งคำขอที่เป็นลายลักษณ์อักษรมายังบริษัท กรุณาติดต่อและส่งมาทางที่อยู่ของบริษัท

  2. อย่างไรก็ตาม หากกฎหมายที่ใช้บังคับอนุญาตให้กระทำได้ บริษัทอาจไม่สามารถตอบสนองตามข้อร้องขอของผู้ขอใช้บริการได้ หากมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้
    • การเปิดเผยมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน หรือสิทธิหรือประโยชน์อื่นใดของผู้ขอใช้บริการหรือของบุคคลอื่น
    • การเปิดเผยมีความเป็นไปได้ว่าจะขัดขวางการดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องเหมาะสมของบริษัทอย่างร้ายแรง
    • การเปิดเผยขัดต่อกฎหมายอื่นๆ หรือ
    • หากผู้ขอใช้บริการไม่ยืนยันตัวตนของท่านเมื่อร้องขอให้มีการเปิดเผย

ข. หากผู้ขอใช้บริการเปลี่ยนใจจะทำอย่างไร

  1. หากผู้ขอใช้บริการเปลี่ยนใจในเรื่องเกี่ยวกับขอบเขตของข้อมูลที่ผู้ขอใช้บริการประสงค์เปิดเผยต่อไป ผู้ขอใช้บริการสามารถเปลี่ยนแปลงโดยวิธีการส่งคำขอที่เป็นลายลักษณ์อักษรมายังบริษัท

ค. ข้อซักถาม/ข้อเสนอแนะ/ข้อกังวล

  1. หากผู้ขอใช้บริการมีข้อซักถาม ข้อเสนอแนะ หรือข้อกังวลใดๆ เกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวนี้ หรือนโยบายหรือแนวทางปฏิบัติการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวอื่นๆ ของบริษัท โปรดติดต่อบริษัทผ่านแบบฟอร์มติดต่อของบริษัท หรือทำหนังสือมาถึงบริษัทที่

  2. บริษัท irasubhost ไอร่าซัพโฮต์ จำกัด

ง. การเปลี่ยนแปลงแก้ไขนโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวนี้

  1. บริษัทอาจแก้ไขนโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของบริษัทเป็นครั้งคราว ด้วยเหตุผลหลากหลายประการ ซึ่งรวมถึงเพื่อปรับปรุงแนวทางปฏิบัติการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของบริษัท เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงบริการของบริษัท และปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง บริษัทได้ทำการปรับปรุงนโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวนี้เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2562 และจัดทำขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2562เมื่อบริษัททำการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของบริษัทในสาระสำคัญ บริษัทจะแจ้งให้ผู้ขอใช้บริการทราบในบริการของบริษัทหรือโดยวิธีการอื่นตามสมควร บริษัทขอแนะนำให้ผู้ขอใช้บริการตรวจสอบการแก้ไขเปลี่ยนแปลงดังกล่าวด้วยความรอบคอบ หากผู้ขอใช้บริการตกลงตามการแก้ไขเปลี่ยนแปลงดังกล่าว โปรดใช้บริการของบริษัทต่อไป แต่หากผู้ขอใช้บริการไม่ตกลงตามการแก้ไขเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และไม่ประสงค์จะใช้บริการของบริษัทอีกต่อไปแล้ว ผู้ขอใช้บริการอาจเลือกยุติการใช้บริการของผู้ขอใช้บริการได้ ซึ่งการที่ผู้ขอใช้บริการใช้บริการของบริษัทต่อไป หลังจากที่ได้มีการแจ้งให้ผู้ขอใช้บริการทราบเรื่องการแก้ไขเปลี่ยนแปลงแล้ว หรือได้มีการประกาศในบริการของบริษัทแล้ว ถือว่าผู้ขอใช้บริการยอมรับการแก้ไขเปลี่ยนแปลง และยินยอมตามนโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงนี้แล้ว บริษัทจะขอความยินยอมจากผู้ขอใช้บริการหากกฎหมายที่ใช้บังคับกำหนดไว้